วันจันทร์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2560

SC

SC เตรียมเปิด 17 โครงการใหม่ รุกเจาะแนวราบตลาดล่าง



 “เอสซี แอสเสท”เตรียมเปิดโครงการใหม่ปีนี้มูลค่ากว่า 2.7 หมื่นล้านบาท หนุนเป้ายอดขายทั้งปีโต 40% ขึ้นแตะ 1.6 หมื่นล้านบาท พร้อมเบนเข็มเจาะตลาดแนวราบ ลูกค้าระดับล่าง หวังหาโอกาสเพิ่มในอนาคต

นายอรรถพล สฤษฎิพันธาวาทย์ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการเงินบมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น  หรือ SC บอกว่า ในปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายเพิ่มขึ้น 40% มาอยู่ที่ 1.6 หมื่นล้านบาท โดยมาจากการเปิดโครงการใหม่ 17 โครงการ มูลค่ากว่า 2.7 หมื่นล้านบาท โดยทยอยเปิดในครึ่งปีแรกรวม 6 โครงการและครึ่งปีหลัง อีก 11 โครงการ ทำให้ปีนี้จะมีโครงการพร้อมขาย 49 โครงการ มูลค่า รวม 5.4 หมื่นล้านบาท 

อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ถือเป็นปีแรกที่บริษัทหันมารุกขยายโครงการแนวราบในลูกค้าระดับล่าง โดยเป็นโครงการทาวน์โฮมมูลค่าต่ำกว่า 3-5 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเห็นในปีนี้ 1-2 โครงการ พร้อมจะเพิ่มสัดส่วนให้เป็น 5-10% ของโครงการทั้งหมดของบริษัทฯในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า เหตุผลหลักที่เข้ามาเจาะตลาดดังกล่าว เพราะเล็งเห็นถึงโอกาสขยายตัวได้อีกมาก และยังช่วยกระจายพอร์ตของลูกค้าในหลายกลุ่มเพื่อช่วยให้ผลประกอบการเติบโตมั่นคงในระยะยาว

ส่วนทิศทางรายได้ปีนี้ คาดว่าจะทำได้ 1.48 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% เป็นการรับรู้จากยอดขายที่รอการรับรู้ (Backlog) ที่ปัจจุบันมีอยู่ราว 7 พันล้านบาท แบ่งเป็นจะรับรู้ปีนี้ 15-20% และที่เหลือจะรับรู้ในปีถัดไป

สำหรับแผนระยะยาว บริษัทได้ตั้งเป้ารายได้ปี 2562 จะเพิ่มขึ้นมาแตะ 2 หมื่นล้านบาท โดยจะเป็นโครงการเปิดใหม่ในปีนี้และปีถัดไปที่จะมีจำนวนมากขึ้น ซึ่งบริษัทฯ เตรียมงบลงทุนไว้ที่ 1.6 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นซื้อที่ดิน 8 พันล้านบาท และอีก 8 พันล้านบาทใช้พัฒนาโครงการ ขณะที่แหล่งเงินทุนมาจากกระแสเงินสด กู้สถาบันการเงิน และออกหุ้นกู้ 

ในปีนี้บริษัทมีแผนออกหุ้นกู้วงเงิน 4-4.5 พันล้านบาท เพื่อทดแทนหุ้นกู้เดิมที่ครบกำหนด 1.6 พันล้านบาท และที่เหลือเพื่อใช้ในการขยายธุรกิจ 

บริษัทยังอยู่ระหว่างศึกษาจัดตั้งกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) โดยจะนำอาคารสำนักงานให้เช่าขายเข้ากองทุน ซึ่งปัจจุบันที่มีอาคารสำนักงานให้เช่าจำนวน 4 แห่ง ได้แก่ อาคารชินวัตร 1,2,3 และ SC Tower มูลค่ารวม 6 พันล้านบาท โดย
อัตราการเช่าเฉลี่ยกว่า 80% 

ส่วนกำหนดการจัดตั้งกอง REIT และการเลือกอาคารสำนักงานให้เช่าขาย เข้ากองทุนยังไม่ได้กำหนด เพราะต้องพิจารณาเปรียบเทียบในเรื่องต้นทุนจัดตั้ง REIT กับที่บริษัทบริหารเองรวมถึงแผนการลงทุนของบริษัทในอนาคต

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น