วันอังคารที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2559

GL


GL ร่วง หลังพลิกล็อคหลุดคำนวณทั้ง SET50 และ SET100

 


ริมาณซื้อขายตลาดหุ้นไทยเข้าสู่โหมดเบาบางลง กับการเข้าใกล้ช่วงเทศกาลวันหยุดยาวปีใหม่และคริสต์มาส แต่ตลอดทั้งวัน (อังคาร 20 ธ.ค.) ยังเห็นแรงขายกระจายในหุ้นหลักหลายกลุ่ม

“กรุ๊ปลีส” หรือหุ้น GL แม้จะเพิ่งขึ้นทำ All Time High ไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว (16 ธ.ค.) แต่ล่าสุดกลับถูกเทขายแรง วอลุ่มติดอันดับสูงสุด (Most Active Mainboard Value) หนาแน่นกว่า 2.2 พันล้านบาท ตลาดผิดหวังจากการพลิกโผหุ้นไม่ได้ถูกนำเข้าคำนวณในดัชนี SET50 ในรอบครึ่งปีแรกปี 2560 และยังหลุดจากการคำนวนดัชนี SET100 ซึ่งผิดไปจากการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์หลายสำนัก 

มีข้อมูลเพิ่มเติมด้วยว่า GL-W4 เตรียมกำหนดวันใช้สิทธิแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญ ในอัตรา 1 ต่อ 1 ในราคาใช้สิทธิที่ 40 บาท/หุ้น ในวันที่ 30 ธ.ค.59  โดยมีระยะเวลาแจ้งความจำนงในการใช้สิทธิวันที่ 21-27  ธ.ค.59 ซึ่งอาจจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยกดดันราคาหุ้นในระยะสั้น

ในประเด็นนี้ Money Channel สอบถามคุณนำชัย เตชะรัตนะวิโรจน์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ซึ่งให้ข้อมูลว่า ราคาหุ้น GL ในเวลานี้มีความตึงตัวมาก หรือเรียกว่าราคาหุ้นแพงเกินกว่าพื้นฐานที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์  (ฝ่ายวิเคราะห์ฯ ประเมินราคาพื้นฐาน GL ที่ 53 บาท) ขณะที่ GL ยังขาดปัจจัยบวกใหม่เข้ามาสนับสนุน Upside ในระยะสั้น จึงทำให้เมื่อมีปัจจัยลบจากการหลุดโผเข้าคำนวนดัชนี SET50 และยังหลุดคำนวนในดัชนี SET100 จึงกลายเป็น “Negative Surprise” 

"มองว่าประเด็นการหลุดโผคำนวน SET50 ของ GL กระทบต่ออารมณ์ของนักเก็งกำไรในหุ้น GL พอสมควร เพราะก่อนหน้านี้โบรกเกอร์หลายสำนักคาดว่าจะถูกนำเข้าไปคำนวณ แต่มองว่าเป็นเพียงผลกระทบ Sentiment แค่ระยะสั้นๆ ไม่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อพื้นฐานใหญ่โตอะไรมากมาย แต่ด้วยมูลค่าหุ้นตอนนี้แพงเกินไป ทำให้เล่นต่อคงจะลำบาก เพราะด้วยมูลค่าพื้นฐานที่เราให้ อยู่ที่ 53 บาทเท่านั้น"

คุณนำชัย ได้ประเมินถึงแนวโน้มผลประกอบการ GL ในไตรมาส 4 นี้ คาดว่ากำไรยังมีแนวโน้มทำสถิติสูงสุดใหม่ราว 300 ล้านบาท เพราะแรงหนุนของธุรกิจต่างประเทศ โดยในอินโดนีเซีย สามารถทำกำไรได้ทันที แม้เริ่มธุรกิจไปเพียงไตรมาสเดียว ขณะการเติบโตสูงของกำไรในกัมพูชาและลาว คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 25% 
สำหรับธุรกิจในไทยเอง บริษัทฯ ได้รับปัจจัยบวกจากคุณภาพสินเชื่อที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ทำให้การตั้งสำรองไม่มา กและขาดทุนจากการขายรถยึดมีน้อยลง 

GL ยังมีผลบวกเต็มไตรมาสของต้นทุนการเงินเฉลี่ยที่ลดลงเนื่องจากบริษัทฯ เพิ่งออกหุ้นกู้ชุดใหม่ 1.5 พันล้านบาท ดอกเบี้ย 2.84% เมื่อปลายไตรมาส 3 ทำให้ประเมินกำไรปี 2559 ไว้ที่ 1.04 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นก้าวกระโดดจากปีก่อนถึง 78% 

สำหรับในปี 2560-61 ทาง บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ คาดว่าธุรกิจจะถูกสนับสนุนโดยธุรกิจต่างประเทศและดีล M&A จากการเข้าซื้อกิจการที่ศรีลังกาและเมียนมา และการลงทุนในหุ้นกู้แปลงสภาพซึ่งจะรับรู้รายได้กำไรได้ทันทีประมาณ 30% ของฐานกำไรปี 2559 ที่ถือเป็นส่วนเพิ่มจากฐานกำไรเดิมที่มีเสถียรภาพอยู่แล้วของธุรกิจในไทย และการเติบโตสูงต่อเนื่องของกัมพูชาและลาวซึ่งยังมีช่องว่างให้เจาะตลาดได้อีก

นอกจากนั้น มีผลบวกจากการขยายตัวของธุรกิจอินโดนีเซียที่เพิ่งเริ่มในไตรมาส 3 ทำให้บริษัทฯ สามารถรับรู้รายได้เต็มปีในปี 2560  

โดยปัจจัยทั้งหมดนี้ ทำให้คาดว่าจะเห็นการเติบโตของกำไรที่สูงขึ้นอีก 67% ในปี 2560 ขณะทิศทางกำไรในปี 2561 เชื่อว่ากำไรส่วนเพิ่มจะเกิดจากดีล M&A เป็นหลัก

บทวิเคราะห์ บล.ทรีนีตี้ ระบุว่ารายชื่อหุ้นนำเข้าและถอดออกในดัชนี SET50 ครั้งนี้ ถือเป็นอีกครั้งที่เกณฑ์การคัดเลือกไม่ได้มาจากคู่มือที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดเผยออกสู่สาธารณะทั้งหมด อย่างหุ้น “จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล” (JAS) ก็ไม่ได้ถูกนำเข้าคำนวณ ตามที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ประเมินไว้ เช่นเดียวกับ “กรุ๊ปลีส” (GL) ที่ทำเซอร์ไพรส์หลุด SET100 ทั้งๆ ที่มาร์เก็ตแค็ปยังเข้าเกณฑ์ SET50 ได้

“หากจะยึดตามคู่มือที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ประกาศออกมา คงจะไม่มีเหตุผลที่หุ้นทั้ง 2 ตัวนี้จะไม่ถูกนำเข้าคำนวณใน SET50 อย่าง “กรุ๊ปลีส” ซึ่งมีมาร์เก็ตแคปติดอันดับ 30-40 ของหุ้นทั้งตลาด ไม่เพียงแต่ไม่ถูกนำเข้า SET50 แต่ยังถูกนำออกจากSET100 ด้วยซ้ำ หากจะมีเหตุผลใดมารองรับ ก็คงจะเป็นเหตุผลนอกเหนือจากคู่มือที่เปิดเผยออกมา ซึ่งเหตุการณ์ในลักษณะนี้ก็เคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง โดยเฉพาะในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งอาจจะมีเหตุผลอื่นมาประกอบ เพราะหากยึดตามตัวเลขที่ใช้ในการคำนวณก็น่าจะบอกผลได้อยู่แล้ว”

ทั้งนี้ ยังมีการคำนวณว่า หุ้น GL ยังมีโอกาสถูกนำเข้าสู่ดัชนี MSCI Standard Index ในปี 2560 หลังจากที่ปัจจุบันถูกจัดอยู่ใน MSCI Small Cap ส่วนการถูกนำออกจาก SET100 นักวิเคราะห์มองว่าน่าจะเป็นปัจจัยกดดันทางจิตวิทยาระยะสั้น

บล.เอเซียพลัส เผย่วา หุ้นที่ไม่ติดเข้าคำนวณ SET50 งวดใหม่อย่าง BJC, RATCH, GL และ JAS  แม้ว่าหุ้นดังกล่าวจะเข้าหลักเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ทุกประการ (การมีลำดับ Market Cap เฉลี่ยในเดือน ก.ย. – พ.ย.59 อยู่ใน 50 ลำดับแรกของหลักทรัพย์ทั้งตลาดฯ และมี Free Float ไม่น้อยกว่า 20% เป็นต้น)  แต่ตลาดหลักทรัพย์ฯ กลับนำรายชื่อหุ้นที่อยู่ในลำดับสำรองขึ้นมา ซึ่งตรงตามที่ฝ่ายวิจัยฯ คาดการณ์ จึงสรุปได้ว่าหลักทรัพย์ที่ผ่านคุณสมบัติทั้งหมดแล้วสุดท้ายยังต้องขึ้นอยู่ความเหมาะสม  และดุลพินิจของตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นสำคัญ





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น