วันศุกร์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2559

TTA

ทริสหั่นเครดิตองค์กร TTA เหลือ BBB



30 ธ.ค. 59

 

ทริสเรทติ้ง ปรับลดเครดิตองค์กร  TTA  เป็น “BBB" จากเดิมที่ระดับ “BBB+" พร้อมลดเครดิตหุ้นกู้ลงต่ำกว่าองคืกรอีก 1ขั้น  สะท้อนถึงผลกำไรที่ด้อยลงอย่างต่อเนื่อง


"ทริสเรทติ้ง" ปรับลดอันดับเครดิตองค์กรของ TTA หรือ บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์  จำกัด (มหาชน) เป็นระดับ “BBB" จากเดิมที่ระดับ “BBB+" และปรับลดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของบริษัทเป็นระดับ “BBB-" จากเดิมที่ระดับ “BBB" 
          
โดยอันดับเครดิตหุ้นกู้มีระดับต่ำกว่าอันดับเครดิตองค์กรอยู่ 1 ขั้น เนื่องจากอัตราส่วนหนี้ที่มีหลักประกันต่อสินทรัพย์รวมคาดว่าจะอยู่ในระดับเกินกว่า 20% อันเนื่องมาจากแผนปรับปรุงโครงสร้างเรือของบริษัท

"ทริสเรทติ้ง" ระบุว่า การปรับลดอันดับเครดิต สะท้อนถึงผลกำไรของบริษัทที่ด้อยลงอย่างต่อเนื่อง และความคาดหมายว่าธุรกิจเรือขนส่งสินค้าแห้งเทกอง และธุรกิจให้บริการนอกชายฝั่ง จะยังคงอ่อนแอเป็นระยะเวลานาน แม้ว่าอุปทานส่วนเกินในอุตสาหกรรมเรือขนส่งสินค้าแห้งเทกองจะลดลง จากอัตราการยกเลิกเรือสั่งใหม่และการปลดระวางเรือเก่าที่เพิ่มขึ้น แต่อุปทานกองเรือใหม่ ยังอยู่ในระดับสูง เนื่องจากแผนการส่งมอบเรือบางส่วนถูกเลื่อนไปเป็นปี 2560 และปีหลังจากนั้น 

ในมุมมองของ “ทริสเรทติ้ง” จึงเห็นว่าภาวะอุปทานส่วนเกินน่าจะยังอยู่ต่อไป ซึ่งจะส่งผลให้ค่าระวางเรือยังคงอยู่ในระดับต่ำในระยะสั้นถึงระยะปานกลาง ในขณะเดียวกัน ภาวะซบเซาของธุรกิจให้บริการนอกชายฝั่ง ก็อาจจะกินระยะเวลายาวนานกว่าที่คาด ขณะยังมีความไม่แน่นอนของราคาน้ำมัน และระยะเวลาที่ตลาดจะฟื้นตัวทำให้ผู้ผลิตน้ำมันและก๊าซทั้งหลายยังคงใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง และพยายามหาโอกาสในการลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายต่างๆ อย่างต่อเนื่อง 

นอกจากนี้ ภาวะอุปทานส่วนเกินของเรือวิศวกรรมใต้ทะเลและเรือขุดเจาะจะยิ่งทำให้สภาพแวดล้อมของธุรกิจอ่อนแอลง ซึ่งจะทำให้การหาสัญญาจ้างงานใหม่ ๆ ของบริษัทมีความท้าทายมากยิ่งขึ้น
          
จากแนวโน้มที่ไม่เอื้ออำนวยในธุรกิจหลักทั้ง 2 ประเภทดังกล่าว จึงคาดว่าผลประกอบการของบริษัทจะยังอยู่ภายใต้แรงกดดันต่อไป 

อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งมองว่า งบการเงินที่เข้มแข็งและสภาพคล่องที่เพียงพอจะเป็นปัจจัยหลักที่จะช่วยให้บริษัทผ่านพ้นช่วงวิกฤตขาลงนี้ไปได้

ทั้งนี้ รายได้ของ “โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์” ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2559 อยู่ที่ประมาณ 10,100 ล้านบาท ลดลง 38.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน และมี EBITDA อยู่ที่ประมาณ 1,400 ล้านบาท ลดลง 31.4% เมื่อเทียบกับปีก่อน



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น