วันศุกร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2560

BAY

BAY งวดปี59 กำไร 2.1 หมื่นล.- เพิ่มขึ้น 14.9%

BAY ประกาศกำไรปี 59 อยู่ที่ 2.1 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.9% ใกล้เคียงที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ผลจากรายได้ดอกเบี้ยที่เติบโตตามสินเชื่อ

บมจ.ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) แจ้งผลการดำเนินงานปี 2559 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 21,404 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.9% เทียบกับปี 2558 ที่มีกำไรสุทธิ  18,634 ล้านบาท 

BAY ชี้แจงว่า ปัจจัยขับเคลื่อนผลการดําเนินงานที่แข็งแกร่งมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิจากการเติบโตของเงินให้สินเชื่อ ต้นทุนการเงินที่ปรับดีขึ้นจากการบริหารต้นทุนของธนาคาร 

ขณะเดียวกันรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นจากความสามารถในการนําเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลาย ส่งผลต่อการเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งของผลกําไร

ส่วนเงินให้สินเชื่อรวมอยู่ที่  1,448,882 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจํานวน 145,428 ล้านบาท หรือ 11.2% เทียบกับสิ้นเดือนธันวาคม 2558  ซึ่งการเติบโตของเงินให้สินเชื่อในปี 2559 ปัจจัยหลักมาจากสินเชื่อรายย่อยซึ่งเพิ่มขึ้นถึง  15.9%  จากความต้องการสินเชื่อรายย่อยที่ครอบคลุมทุกประเภท ในสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล และการรวมสินเชื่อจากกิจการที่เข้าซื้อในกัมพูชา  Hattha Kaksekar Limited 
 (HKL)

ขณะที่สินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดใหญ่และสินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งที่  8%  และ 6.5% ตามลําดับ โดยเงินรับฝากมีจํานวนทั้งสิ้น 1,108,288 ล้านบาท เพิ่มขึ้น  61,998 ล้านบาท หรือ 5.9% โดยเป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของเงินรับฝากประเภทออมทรัพย์ และเงินรับฝากจาก HKL

ส่วนรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น  11.7%  เทียบกับปี 2558 ปัจจัยขับเคลื่อนจากรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิจากธุรกิจบริการบัตรและรายได้จากการเป็นตัวแทนจําหน่ายประกัน รวมถึงการเพิ่มขึ้นของรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยจากกําไรสุทธิจากธุรกรรมเพื่อการค้าและปริวรรตเงินตราต่างประเทศ กําไรจากเงินลงทุนและรายได้จากหนี้สูญรับคืน

BAY ระบุว่า ได้ดําเนินธุรกิจด้วยความรอบคอบระมัดระวัง รวมถึงพยายามในการแก้ไขสินเชื่อด้อยคุณภาพอย่างต่อเนื่อง ในปี 2559 มีการขายสินเชื่อด้อยคุณภาพเป็ นจํานวน 2,878 ล้านบาท ส่งผลให้ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2559 อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพอยู่ที่  2.21%

ณ สินปี 2559 ธนาคารมีเงินสํารองจํานวน 49,900 ล้านบาท ทําให้สํารองส่วนเกินตามเกณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทยอยู่ที่  16,056 ล้านบาท และค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเทียบกับเกณฑ์สํารองของธนาคารแห่งประเทศไทยอยู่ที่ 147.4% 

ขณะที่อัตราส่วนเงินสํารองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพของกรุงศรีกรุ๊ปอยู่ระดับแข็งแกร่งที  143.3%
-

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น