ดัชนีตลาดหุ้นไทยฟื้นได้ต่อ แม้การแกว่งตัวในกรอบจำกัดสะท้อนถึงความระมัดระวังในการซื้อขาย ขณะต่างชาติกลับมาเป็นขายสุทธิ 262 ล้านบาท พร้อมๆ กับรีเทลที่ขายสุทธิ 370 ล้านบาท ปล่อยให้สถาบันฯ เป็นผู้ซื้อสุทธิ 528 ล้านบาท ตลาดมีแรงเก็งกำไรในหุ้นขนาดกลางและเล็กคึกคักขึ้น โดยเฉพาะในหุ้นที่มีสตอรี่คอยสนับสนุน
หุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ประเภทที่อยู่อาศัย กลับมาได้รับความสนใจ กับความหวังที่จะเห็นยอดขายฟื้นตัวขึ้นเป็นลำดับ ซึ่งรวมถึง LPN (บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)) หลังจากก่อนหน้านี้ราคาหุ้นปรับตัวลดลงมาอย่างต่อเนื่องหลายปี จนรอบล่าสุดมาถูกกระทบหลังการรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3/59 ที่ลดลงมาถึงเกือบ 70% มาอยู่ที่ 309 ล้านบาท
แต่หุ้น LPN เริ่มมารีบาวด์ได้ในระดับหนึ่งตั้งแต่เดือนธ.ค.ของปีที่ผ่านมา ทำให้นักลงทุนเริ่มมีคำถามว่าตัวแปรสำคัญที่จะทำให้ LPN พลิกผันกลับมาฟื้นตัวเป็นขาขึ้นได้อีกครั้งในปีนี้ จะเกิดขึ้นได้หรือไม่? ราคาหุ้นพ้นจุดต่ำสุดหรือยัง? Valuation เป็นอย่างไร?
Money Channel สอบถามนักวิเคราะห์พื้นฐานค่าย “เคจีไอฯ” ซึ่งประเมินว่า แม้ว่ากำไรไตรมาส3/59 จะออกมาต่ำ แต่คาดเป็นจุดแย่สุดในรอบปี 2559 และจะเริ่มส่งสัญญญาณฟื้นตัวในไตรมาส4/59 โดยเป็นการรับรู้รายได้จาก Backlog ที่อัพเดตล่าสุดในเดือน พ.ย.ที่ผ่านมามีมูลค่ากว่า 1.5-2 พันล้านบาท
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในเวลานี้ คือ เทรนด์ของกำลังซื้อในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัวดีขึ้นเป็นลำดับ จากการเปิดขายโครงการใหม่คอนโดมิเนียมของ LPN 2 โครงการในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาได้รับความสนใจอย่างมาก ซึ่งได้แก่ โครงการลุมพินี สวีท เพชรบุรี ที่มีราคาขายเฉลี่ย 1.4 แสนบาทต่อตารางเมตร มูลค่ารวมกว่า 2 พันล้านบาท โดยจะเปิดขายเพียง 35% และขายได้ทั้งหมด (Sold out) ขณะที่ยังมีบางส่วนให้เอเยนต์นำไปขายต่างประเทศ ส่วนที่เหลือจะนำมาเปิดขายต่อ แต่คาดว่าจะมีการปรับราคาขายขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีโครงการลุมพินี เพลส บางนา ราคาขายเฉลี่ย 6.1 หมื่นบาทต่อตารางเมตร มูลค่าโครงการ 1.1 พันล้านบาท เปิดขาย 85% ซึ่งขายได้ทั้งหมด ส่วนที่เหลือจะเปิดขายตามมา แต่คาดว่าจะมีการปรับราคาขายขึ้นเช่นกัน
บริษัทฯ ยังเตรียมเปิดโครงการใหม่ 1 โครงการ แถวราษฎร์บูรณะในเดือนนี้ด้วย
สำหรับแผนงานทั้งหมดของ LPN ในปี 2560 ยังต้องรอการแถลงอย่างเป็นทางการในต้นเดือนก.พ.นี้ หลังจากประกาศผลประกอบการปี 2559 แล้ว
กระแสกำลังซื้อผู้บริโภคที่ฟื้นตัวในครั้งนี้ ได้สะท้อนความต้องการที่ถูกเลื่อนมาในช่วงก่อนหน้านี้ ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ประกอบการชะลอเปิดโครงการใหม่เพราะอยู่ในช่วงถวายความอาลัย แต่นักวิเคราะห์รายนี้เชื่อว่านับตั้งแต่สัปดาห์นี้เป็นต้นไป จะเริ่มเห็นกิจกรรมทางการตลาดของผู้ประกอบการหลากหลายค่ายมากขึ้น
“กำลังซื้อส่วนใหญ่จะกระจุกตัวในบริเวณกรุงเทพชั้นใน แต่กำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นในแถบชานเมืองตั้งแต่ต้นปี ทำให้เป็นสัญญาณบวกกับตลาดที่อยู่อาศัยมีโอกาสพลิกฟื้นได้ดี โดยหุ้น LPN ที่เคยถูกกดดันด้วยประเด็น Backlog ที่ต่ำ น่าจะมีโอกาสที่ตลาดคลายความกังวลลง โดยก่อนหน้านี้ ทีมผู้บริหาร LPN เคยให้มุมมองว่าในครึ่งปีแรกของปี 2560 จะเร่งเปิดตัวโครงการใหม่มากขึ้น บวกกับกลยุทธ์การระบายสต็อกเก่าเพื่อให้มียอดโอนและกำไรเติบโตให้ทันในปีนี้และปีถัดๆไป”
“เคจีไอ” ให้ราคาพื้นฐาน LPN 15 บาท อิง P/E 12.2 เท่า กับมุมมองที่เชื่อว่า LPN จะเป็นรายแรกๆ ที่ขยับตัวได้โดดเด่น และยอดขายที่เข้ามาบางส่วนมีโอกาสโอนเป็นรายได้ทันภายในปีนี้ โดยเบื้องต้นนักวิเคราะห์ประเมินกำไรปี 2559 จะอยู่ที่ 2,281 ล้านบาท ปี 2560 จะอยู่ที่ 1,816 ล้านบาท และปี 2561 กำไรจะอยู่ที่ 2,016 ล้านบาท
ความเห็นอีกโบรกเกอร์คือ “ดีบีเอส วิคเคอร์ส” ระบุว่า แม้ในระยะสั้นราคาหุ้น LPN จะตอบรับในทางบวก เพราะข่าวดียอดขายของ 2 โครงการกลับมาคึกคักอีกครั้ง แต่ที่ผ่านมาราคาหุ้นได้ปรับตัวขึ้นรับข่าวเก็งกำไรเรื่องการฟื้นตัวของยอดขายไปพอสมควร ซึ่งในปีนี้คาดกำไรหลักจะปรับลดลงถึง 37% เมื่อเทียบกับปี 2559 เพราะคาดรายได้จากการโอนจะปรับลง 19% มาเป็น 1.13 หมื่นล้านบาท โดยปัจจุบัน Backlog คิดเป็นสัดส่วนการรับประกันรายได้เพียง 12% เท่านั้นเมื่อเทียบกับประมาณการจึงมองว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำ ดังนั้น บริษัทฯ จึงยังต้องใช้ความพยายามอีกมากที่จะขายเพิ่ม เพื่อให้รับรู้รายได้ทันในปีนี้
“ดีบีเอสฯ” มองหุ้น LPN “Fully Valued” ด้วยราคาพื้นฐาน 9.00 บาท ประเมินด้วย P/E 9 เท่า
สอดคล้องกับ “ทรีนีตี้” ที่ระบุข้อมูลว่า LPN ยังมีความเสี่ยงจากระดับ Backlog และ Take Up Rate ที่ต่ำ แม้ว่าหุ้น LPN จะให้ปันผลสูงถึง 6% แต่ยังต้องจับตาดูโครงการใหม่ที่จะเข้ามาสนับสนุนรายได้ในปี 2560 ให้แข็งแกร่งกว่านี้ รวมทั้งการปรับปรุงภาพลักษณ์ของบริษัทฯ ให้ดูทันสมัยเพื่อกระตุ้นยอดขายให้ดีขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น