วันพุธที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2560

DTAC

DTAC ราคาหุ้นฉลุย เก็งผลบวกดีลพันธมิตรกับทีโอที - ประมูลคลื่นใหม่ 

Update: 21.33 น. 18 ม.ค. 60








ตลาดหุ้นไทย (พุธ 18 ม.ค.) ยังถูกปกคลุมด้วยความกังวลต่อปัจจัยไม่แน่นอนต่างๆ ยิ่งมาตอกย้ำด้วยการขายสุทธิของนักลงทุนต่างชาติที่ล่าสุดเทขายออกมาถึงกว่า 3.1 พันล้านบาท  (ขายสูงสุดตั้งแต่กลางเดือนพ.ย. ปีที่ผ่านมา) พร้อมกับความเสี่ยงต่างประเทศที่ตลาดกำลังจับตา "โดนัลด์ ทรัมป์" ว่าจะนำนโยบายที่เคยหาเสียงไว้มาปฎิบัติจริงได้อย่างไร? 

หุ้น “Big cap” ยังเป็นเป้าถูกเทขายทำกำไรสกัดออกมาเป็นระยะ หลังราคาเพิ่มขึ้นมาสูง แต่ก็พบแรงเก็งกำไรเข้ามาเป็นรายตัวภายใต้ความคาดหวังต่อผลประกอบการที่กำลังทยอยประกาศออกมา

หุ้น DTAC หรือ “โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น” ขึ้นท็อปฟอร์มโชว์การฟื้นตัวของราคาหุ้นได้อย่างโดดเด่น พร้อมๆ กับคำถามว่าการฟื้นตัวขึ้นแรงของราคาหุ้นในรอบนี้ สอดรับกับพื้นฐาน และจะช่วยหนุนหุ้นให้เป็นขาขึ้นได้ต่อเนื่องหรือไม่? 

Money Channel ประมวลงานวิเคราะห์ของโบรกเกอร์หลายสำนัก เพื่อตรวจสอบแนวโน้มผลประกอบการของ DTAC ที่จะรองรับการฟื้นตัวของราคาหุ้นในรอบนี้ ซึ่งในเบื้องต้นพบว่าราคาหุ้นในกระดานถือว่าสูงกว่าราคาพื้นฐานที่นักวิเคราะห์หลายสำนักประเมินไว้แล้ว

ในความเห็นนักวิเคราะห์ "บัวหลวง"  มองว่าราคาหุ้น DTAC ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น มาจากประเด็นการเก็งกำไรเรื่องความคืบหน้าของดีลพันธมิตรคลื่นความถี่ 2300 MHz ของทีโอที ซึ่งยังคงต้องรอประกาศข้อกำหนดและเงื่อนไขของแผนธุรกิจที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงกลางปี 2560 และแผนการเปิดประมูลคลื่นความถี่ 2600  MHz ของกสทช. ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นอย่างเร็วที่สุดในปี 2561 

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยพื้นฐานของหุ้น DTAC ถูกมองว่ายังคงอ่อนแอ โดยกำไรไตรมาส 4/59 มีแนวโน้มอ่อนตัวลงอีกจากค่าอุดหนุนเครื่องโทรศัพท์ที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่กำไรปี 2560 จะยังคงถูกกดดันต่อไปจากค่าอุดหนุนเครื่องโทรศัพท์ระบบพรีเพดที่จะกลับมาเพิ่มสูงขึ้นอีก เนื่องจากบริษัทฯ จะกลับมาช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดพรีเพดอีกครั้งในปี 2560 

“บัวหลวง” ยังคงคำแนะนำ “ถือ” DTAC (ราคาพื้นฐาน 35 บาท) โดยให้รอการฟื้นตัวของกำไรแบบเด่นชัด รวมถึงความชัดเจนของดีลพันธมิตรคลื่นความถี่ 2300 MHz กับทีโอที และการเปิดประมูลคลื่นความถี่ 2600 MHz ก่อนจะทำการปรับประมาณการกำไรปี 2560 อีกครั้งภายหลังการประกาศผลประกอบการปี 2559 

ด้าน “เคจีไอ” คาดกำไรสุทธิในปี 2559 ของ DTAC จะอยู่ที่ 2.4 พันล้านบาท ติดลบ 59% ซึ่งใกล้เคียงกับประมาณการเดิม โดยนักวิเคราะห์มองว่าแนวโน้มกำไรในปี 2560-2561 จะลดลง เนื่องจากค่าใช้จ่ายด้านการตลาดจะยังคงสูงต่อเนื่อง ตามสภาวะการแข่งขันที่รุนแรง ต้นทุนค่าใช้คลื่นลดลงช้า ค่าเสื่อมราคาเพิ่มขึ้นเนื่องจากมีการเร่งบันทึกค่าตัดจำหน่ายของสินทรัพย์ภายใต้สัมปทาน นอกจากนี้ ยังมีค่าเสื่อมราคาจากการลงทุนใหม่ นักวิเคราะห์จึงยังคงประมาณการกำไรสุทธิของ DTAC ในปี 2560 ไว้ที่ 2 พันล้านบาท ติดลบ 24% โดยจะพลิกเป็นขาดทุนสุทธิปี 2561 ที่ 0.7 พันล้านบาท “เคจีไอ” ให้ราคาเป้าหมาย DTAC ที่ 30 บาท

ส่งท้ายด้วยมุมมองของ “ทรีนีตี้” ประเมินผลการดำเนินงาน DTAC ในไตรมาส 4 จะอยู่ที่ 528 ล้านบาท ลดลง 20% Q/Q และ ลดลง 47% Y/Y เป็นผลจากค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นปกติในช่วงไตรมาส 4 และค่าเสื่อมราคาและตัดจำหน่ายที่เพิ่มสูงขึ้นจากการลงทุน 

โบรกเกอร์รายนี้คาดกำไร DTAC ปี 2560 ที่ 2,896 ล้านบาท เติบโต 12%  บริษัทฯ มีค่าตัดจำหน่ายที่เพิ่มสูงขึ้นจากการลงทุน ค่าใช้จ่ายทางการตลาดที่ยังเพิ่มสูงขึ้นเพื่อรักษาฐานของลูกค้า และการลงทุนในโครงข่ายเพื่อให้บริการครอบคลุมยิ่งขึ้น 

“ทรีนีตี้” คาดมูลค่าเหมาะสม  DTAC ที่ 50 บาท ประเมินด้วย “Asset-Based Approach” หรือ “Replacement cost” โดยให้มูลค่าของลูกค้า 25 ล้านเลขหมายที่ 4,500 บาทต่อเลขหมาย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น