BANPU แนวโน้มยังสดใสตามราคาถ่านหิน ผนึกส่วนแบ่งกำไร 3 ธุรกิจ
มาเกาะติดหุ้น BANPU ที่ยังเผชิญแรงขายสกัด (ศุกร์ 24 ก.พ.) แม้ผลดำเนินงานงวดปีล่าสุดจะสามารถพลิกกลับมาเป็นกำไร รับอานิสงส์ราคาถ่านหินฟื้นต่อเนื่อง
BANPU รายงานผลประกอบการงวดปี 2559 (ปิดตลาดพฤหัสฯ 23 ก.พ.) พลิกเป็นกำไรที่ 1,677 ล้านบาท จากที่เคยขาดทุนสุทธิ 1,534 ล้านบาทในปี 2558 สาเหตุหนุนกำไรมาจากราคาถ่านหินตลาดโลกที่เริ่มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือนก.ค.ปี 2559 หลังจากที่ลดลงมาตลอดตั้งแต่ปี 2556
อย่างไรก็ดี กำไรสุทธิงวดทั้งปี 2559 ยังถือว่าต่ำกว่าที่ตลาดคาดว่าจะอยู่ที่ 1,869 ล้านบาท (ฐานข้อมูลธอมป์สัน รอยเตอร์) จนอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดความลังเลในการเข้าลงทุนเพิ่ม หรือกดดันให้เกิดแรงขายสลับออกมา หลังจากราคาหุ้นบวกรับข่าวการพลิกมีกำไรในช่วงแรกหลังเปิดตลาดภาคเช้า
ในรายละเอียดของผลประกอบการ จากรายงานที่บริษัทฯ แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ พบว่า กำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นมาจากการปรับตัวดีขึ้นจากธุรกิจถ่านหินเป็นหลัก และรวมถึงค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ฯ จำนวน 9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเป็นจำนวนภาษีที่ต้องจ่ายเพิ่มหลังจากบรรลุข้อตกลงร่วมกันสำหรับประเด็นข้อโต้แย้งทางภาษีที่มีมายาวนานในออสเตรเลียนับตั้งแต่ก่อนปี 2553
โดยกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา (EBITDA) งวดปี 2559 อยู่ที่ 540 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 15% จากปี 2558 ซึ่งประกอบด้วย :
EBITDA จากธุรกิจถ่านหิน จำนวน 378 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 8%
EBITDA ธุรกิจไฟฟ้า 155 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 31%
และ EBITDA ธุรกิจก๊าซ 7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ราคาถ่านหินที่ฟื้นตัวในช่วงปลายปี 2559 โดยเฉพาะในไตรมาส 4 ช่วยหนุนผลการดำเนินงานของธุรกิจถ่านหิน โดยในไตรมาส 4/2559 แต่ธุรกิจถ่านหินในอินโดนีเซียบันทึกยอดขายจำนวน 6.38 ล้านตัน ลดลง 5% จากไตรมาสก่อนหน้า ด้วยราคาขายเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น 22% เป็น 62.9 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน บริษัทฯ ระบุประสิทธิภาพการผลิตดีขึ้นจากต้นทุนขายที่ลดลงที่เหมือง Indominco หนุนอัตราการทำกำไรขั้นต้นเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็น 50% จาก 36% ในไตรมาสก่อนหน้า
สำหรับธุรกิจถ่านหินในจีน ผลการดำเนินงานดีขึ้นต่อเนื่องจากไตรมาสที่แล้ว ตามราคาขายถ่านหินในประเทศที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจำนวน 31.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับส่วนแบ่งกำไรจำนวน 2.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในไตรมาสก่อนหน้า
ส่วนธุรกิจโรงไฟฟ้า บริษัทฯ รายงานผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมในจีน ที่รับรู้กำไร 8.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
บริษัทฯ มีส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้า BLCP จำนวน 9.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขณะโรงไฟฟ้าหงสา มีส่วนแบ่งกำไรจำนวน 24 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 23 ก.พ. 2560 ได้อนุมัติให้เสนอจ่ายเงินปันผลอัตรา 0.25 บาทต่อหุ้น พร้อมกำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 10 เม.ย. โดยเป็นการจ่ายปันผลจากงวดดำเนินงานวันที่ 1 ก.ค. 2559 ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2559 และกำไรสะสม
บอร์ด BANPU ยังได้อนุมัติการเพิ่มทุน เพื่อรองรับการปรับสิทธิของหลักทรัพย์แปลงสภาพ (BANPU-W3) ด้วยจำนวนหุ้นที่จัดสรร 3 ล้านหุ้น ราคาพาร์ 1.00 บาท
โบรกเกอร์ “บัวหลวง” มองกำไรสุทธิงวด 4Q/59 ดีกว่าที่คาด 30-40% และคาดโมเมนตัมของกำไรจะยังคงแข็งแกร่งใน 1Q/59 จากราคาถ่านหินที่ยังสูง นักวิเคราะห์ให้ราคาเป้าหมาย BANPU ที่ 23 บาท
ด้าน “เมย์แบงก์ กิมเอ็ง” คาดกำไรสุทธิ BANPU งวดปี 2560 จะเติบโตสูงถึง 311% มาอยู่ที่ 9,116 ล้านบาท จากการรับรู้ผลประโยชน์เต็มที่ของราคาถ่านหินที่ปรับตัวขึ้นในปี 2559 ทีผ่านมา ซึ่งจะสะท้อนเข้าสู่รายได้ในปี 2560 ขณะมูลค่าหุ้นมองว่ายังไม่แพง จาก P/E ปี 2560 ที่ 11.0 เท่า นักวิเคราะห์ให้ราคาเหมาะสม 22.20 บาท
ส่วนโบรกเกอร์ “เคจีไอ” ให้ราคาเป้าหมาย 23.60 บาท เนื่องจากแนวโน้มปี 2560 ฟื้นตัวโดดเด่นตามราคาถ่านหิน และได้อานิสงส์นโยบายจีนที่ควบคุมการผลิตภายในประเทศ รวมทั้งการยกเลิกการนำเข้าถ่านหินจากเกาหลีเหนือ ซึ่งคิดเป็น 10% ของปริมาณถ่านหินที่ใช้ นักวิเคราะห์ยังได้ประเมินกำไรส่วนเพิ่มต่อปีไว้ที่ 121 ล้านบาท และมูลค่าพื้นฐานส่วนเพิ่มไว้ที่ 1.14 บาทต่อหุ้น จากการเข้าซื้อแหล่งก๊าซธรรมชาติทั้ง 2 แห่งในสหรัฐฯ