วันพุธที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

JAS

เก็ง JAS ผลประกอบการ 4Q พร้อมลุ้นปันผล

วอลุ่มตลาดรวมกลับมาเป็น 6 หมื่นล้าน (พุธ 1 ก.พ.) แม้ SET index บีบกรอบขึ้นลงมาที่ระหว่าง 1,569 – 1,581 จุด ฝั่งที่ลุ้นประเด็นต่างประเทศก็ต้องรอดูผลประชุมเฟดสำหรับสัญญาณดอกเบี้ย แต่ฝั่งที่เน้นปัจจัยในประเทศ ก็มุ่งเข้าเก็งกำไรในหุ้นรายตัวที่มีทิศทางผลประกอบการช่วยหนุน หรือปันผลที่น่าสนใจ

ล่าสุด ก็วนกลับมาถึงคิว JAS หรือ “จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล” ที่ราคาหุ้นมาพร้อมวอลุ่ม ปะทุแรงเก็งกำไรขึ้นมาอีกรอบ ความหวังดูจะอยู่ที่โอกาสการจ่ายเงินปันผลในงวดท้ายปี2559 ขณะบริษัทฯ อาจประกาศผลประกอบการงวดปี 2559ในสัปดาห์หน้า (6-10 ก.พ.)

นักวิเคราะห์ "โนมูระ พัฒนสิน" บอกว่า ราคาหุ้น JAS เริ่มมีแรงเก็งกำไรเข้ามา น่าจะเป็นการเก็งเรื่องผลประกอบการในงวดไตรมาสสุดท้ายของปี 2559 และการจ่ายปันผลครั้งที่ 3 ในรอบปีบัญชี 2559 โดยในเบื้องต้นคาดว่า JAS จะจ่ายปันผลในงวดนี้ประมาณ 0.10 บาท ซึ่งถ้าหากคำนวณราคาปิด 9.10 บาทจะได้ Yield ราว 1%  เงินปันผลอิงกับผลประกอบการกำไรปกติในไตรมาส 4/59 ที่น่าจะทำได้ 650 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40% Y/Y และเพิ่มขึ้น 19% Q/Q 

กำไร JAS น่าจะออกมาดีขึ้นตามธุรกิจบรอดแบนด์อินเตอร์เน็ตที่มีรายได้เติบโตต่อเนื่องตามผู้ใช้บริการ แม้ว่าผลจากการลดทุนจดทะเบียน 1.2 พันล้านหุ้น ปัจจุบันเหลือ 5.94 พันล้านหุ้น จะส่งผลบวกให้กำไรต่อหุ้น หรือ EPS ถูกปรับขึ้นอีก 14% มาอยู่ที่ 0.56 บาท และราคาพื้นฐานขึ้นมาแตะ 7.50 บาท แต่ “โนมูระฯ” คาดว่าความสามารถการจ่ายปันผล หรือ Dividend Payout ในครั้งนี้มีอัตราส่วนที่ต่ำลง เพราะ JAS เคยนำกำไรสะสมมาจ่ายปันผลไปแล้ว 2 ครั้ง คือ ในเดือน ก.ค.และ พ.ย. 2559 ครั้งละ 0.15 บาท พร้อมกับยังต้องติดตามว่า JAS จะมีค่าใช้จ่ายด้านการบริหารทั่วไป หรือ SG&A มากน้อยเพียงใด เพราะโดยปกติแล้วในไตรมาสสุดท้ายของปีค่าใช้จ่ายจะมีมากเป็นพิเศษตามฤดูกาล รวมทั้งการตัดหนี้สูญของลูกค้าในช่วงปิดงบปี รวมถึงภาระดอกเบี้ยเงินกู้ 6 พันล้านบาทของธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 3/59 เพื่อใช้ขยายโครงข่ายบอร์ดแบนด์อินเตอร์เน็ต 

โบรกเกอร์รายนี้จึงคาดว่าค่าใช้จ่ายของ JAS ในไตรมาส 4/59 จะสูงกว่าไตรมาส 3/59 ที่อยู่ประมาณ 1,100 ล้านบาท ดังนั้น คงต้องจับตาว่าอัตราจ่ายปันผลในอัตรา 0.10 บาทจะลดลงหรือไม่?

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน JAS มีกระแสเงินสดพร้อมนำมาจ่ายปันผล 1.5 พันล้านบาท ซึ่งทาง “โนมูระฯ” เชื่อว่าค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นไม่น่าจะกระทบปันผลในรอบนี้

"ทุนจดทะเบียนที่หายไป 1.2 พันล้านหุ้น ทำให้ปันผลปีนี้ขยับขึ้นมาเป็น 0.40 บาท จากเดิมคาด 0.20 บาท โดยในรอบปีได้จ่ายไปแล้ว 0.30 บาท ทำให้ในงวดไตรมาส 4 นี้ ผลกำไรที่ได้บวกกับกำไรสะสมคงจะจ่ายในอัตรา 0.10 บาท ซึ่งมองว่าความสามารถปันผล Dividend Payout ต่ำลง เพราะเคยนำกำไรสะสมจ่ายปันผลมาแล้ว มีภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ขณะที่กำไรสะสมก็ลดลง โดยปัจจุบันเหลือ 1.5 พันล้านบาท โดยหากคิดคร่าวๆ คือ นำกำไรสะสม 1.5 พันล้านบาทมาเป็นเงินปันผลจะได้ 0.20 บาท แต่เชื่อว่าบริษัทฯ คงไม่นำกำไรสะสมมาจ่ายปันผลทั้งหมด"

นักวิเคราะห์ “โนมูระฯ”  ยังคงประมาณการผลดำเนินงาน JAS งวดปี 2559 คาดกำไรปกติที่ 2,725 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% ส่วนปี 2560 คาดกำไร 3,494 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28% โดยมีปัจจัยบวกรายได้เติบโต 15% ประกอบกับผลของ Economy of scale ตามการเติบโตของจำนวนลูกค้า ทำให้อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ดีขึ้นเป็น 39.7% และรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก JASIF เพิ่มขึ้น 14% 

สำหรับโอกาสในอนาคตที่ JAS อาจจะหวนเข้ามาประมูลคลื่นความถี่อีกครั้ง เพราะธุรกิจบรอดแบนด์อินเตอร์เน็ตมีการแข่งขันรุนแรงมากขึ้นจากค่ายใหญ่ TRUE และ AIS ที่รุกขยายตลาดมากขึ้น แม้ระยะสั้นผลกระทบจะยังไม่ชัดเจน เพราะ JAS มีฐานลูกค้าส่วนใหญ่ในต่างจังหวัด แต่ในอนาคตน่าจะเห็นผลกระทบในเชิงส่วนแบ่งการตลาดมากขึ้น ดังนั้น จากนี้ไปเชื่อว่าอาจจะเห็นการปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้น โดย “พิชญ์ โพธารามิก” อาจลดสัดส่วนการถือครองหุ้นลงมาจากปัจจุบันถือ 60% เพื่อดึงพันธมิตรเข้ามาร่วมในธุรกิจนี้ด้วย        

“โนมูระฯ” ยังคงคำแนะนำหุ้น JAS เป็น “REDUCE” โดยมองราคาหุ้น JAS ตอบรับการเติบโตของกำไรปี 2560ไปแล้ว ประกอบกับยังไม่เห็นปัจจัยบวกใหม่ จึงทำให้ราคาปัจจุบันมี Downside เมื่อเทียบกับราคาพื้นฐาน 7.50 บาท

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น