BCPG กำไรปี 59 เหลือ 1.54 พันล้านบาท ลดลง 28% ผลจากการขยายลงทุนโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ในญี่ปุ่น ขณะที่กำไรต่ำกว่าโบรกคาด มองปี 60-61 กำไรฟื้นโตได้ 30% ขณะที่ปันผลสูงเป็นอันดับ 2 ในกลุ่มพลังงานทดแทน
บมจ.บีพีซีจี (BCPG) ประกาศผลการดำเนินงานประจำปี 2559 มีกำไรสุทธิ จำนวน 1,541 ล้านบาท ลดลง 28% จากปีก่อนที่กำไร 2,147 ล้านบาท
ส่วนกำไรสุทธิไม่นับรวมผลของอัตราแลกเปลี่ยน อยู่ที่ 1,627.67 ล้านบาท ลดลง 24.3% จากปีก่อน
BCPG ชี้แจงว่า ในปี 2559 มีรายได้รวม 3,083.91 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% เทียบกับปี 2558 โดยที่มี EBITDA จำนวน 2,663.00 ล้านบาท ลดลง 20.10% ซึ่งรายได้เพิ่มขึ้นจากกิจการผลิตไฟฟ้าในประเทศญี่ปุ่นเป็นหลัก
ขณะที่มีกำไรขั้นต้น 2,261.65 ล้านบาท ลดลง 5.8% YoY โดยมีสาเหตุเดียวกันกับในช่วงไตรมาสที่ 4/2559 ได้แก่ ต้นทุนค่าใช้จ่ายคงที่ที่สูงขึ้น และรายได้ที่ลดลงจากปัจจัยภายนอก ซึ่งเป็นผลจากค่าใช้จ่ายในการบริหารที่สูงขึ้นจากการขยายกิจการ
ส่วนในไตรมาส 4/2559 มีกำไรสุทธิ 326.79 ล้านบาท ลดลง 36.7% YoY และลดลง 10.4% QoQ
ณ สิ้นปี 2559 กลุ่มบริษัทมีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด 7,361.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 655.3% เทียบกับ ณ สิ้นปี 2558 ซึ่งเป็นผลจากเงินสดสุทธิที่ได้จากผลการดำเนินงาน และเงินสดได้จากการจัดหาเงินกู้และการเพิ่มทุนในช่วงปี 2559
ขณะที่เงินสดสุทธิใช้ไปในกิจกรรมลงทุนเป็นค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเข้าซื้อกิจการในประเทศญี่ปุ่นของกลุ่ม SunEdison และลงทุนซื้อที่ดินสำหรับโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ของบริษัทในกลุ่มที่ประเทศญี่ปุ่น
ในช่วงเช้า BCPG ได้ประกาศจ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการในไตรมาสที่ 4 ของปี 2559 ในอัตราหุ้นละ 0.15 บาทต่อหุ้น รวมจ่ายเงินปันผลทั้งปีในอัตราหุ้นละ 0.69 บาท คิดเป็นเงินปันผลรวมทั้งสิ้นประมาณ 1,373 ล้านบาท
บล.เคจีไอ คาดกำไรปี 59 ของ BCPG จำนวน 1,651 ล้านบาท ซึ่งหลายโบรกเกอร์คาดไว้ราว 1,600 ล้านบาท ขณะที่คาดว่าจะพลิกกลับมาโตถึง 30% ในปี 2560 และโตอีก 20% ในปี 2561
พร้อมให้ราคาเป้าหมายปี 2560 ที่ 13.50 บาท ซึ่งราคาหุ้นในขณะนี้อยู่ที่ราว 13.20 บาท จึงเหลืออัพไซด์ไม่มากนัก
ขณะที่บล.เคจีไอ มองว่า ผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของ BCPG ก็น่าจะให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่น่าสนใจสูงเป็นอันดับที่ 2 ในกลุ่มพลังงานทดแทนที่ 2.9% จากอัตราผลตอบแทนจาปันผลของกลุ่มอยู่ที่ 0.2-6.2%
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น