หุ้น BEM หรือ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หุ้นพื้นฐานแกร่งที่นักลงทุนยังดูรีๆ รอๆ ในการจับจังหวะกลับเข้าลงทุน สะท้อนผ่านทั้งวอลุ่มที่ยังน้อย และราคาหุ้นที่เคลื่อนไหวแบบ “sideway” ออกไปทางด้านลบ แม้จะมีข่าวดีก่อนหน้านี้เมื่อคณะรัฐมนตรีเห็นชอบดำเนินการว่าจ้างบริษัทฯ ให้ติดตั้งระบบการเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงเตาปูน-บางซื่อ
เมื่อวันพฤหัสฯ 16 ก.พ. ได้มีพิธีลงนามสัญญาว่าจ้างติดตั้งระบบรถไฟฟ้าเชื่อมต่อสายสีน้ำเงินและสายสีม่วง ช่วงสถานีเตาปูน - บางซื่อ ระหว่างการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และ BEM เพื่อดำเนินงานเชื่อมต่อระบบรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ช่วงหัวลำโพง - บางซื่อ และสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่ – บางซื่อ ระยะทาง 1 กิโลเมตร ที่สถานีเตาปูน - บางซื่อ วงเงิน 918 ล้านบาท ตามที่คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบให้ดำเนินการจัดจ้าง ซึ่งทาง รฟม. ระบุว่าจะเร่งดำเนินการเพื่อให้สามารถเปิดเดินรถเชื่อมต่อให้บริการประชาชนได้ในเดือนสิงหาคม นี้
ด้าน “สมบัติ กิจจาลักษณ์” เอ็มดีของ BEM เปิดเผยกับสื่อถึงแผนการเดินรถส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางแค และ ช่วงบางซื่อ-ท่าพระ ซึ่งคาดว่าจะลงนามสัญญาได้ในเดือน มี.ค.นี้ หากคณะรัฐมนตรีอนุมัติให้ BEM เป็นผู้เดินรถ โดยบริษัทฯ มีระยะเวลา 36 เดือนในการเข้าไปติดตั้งระบบรถไฟฟ้า และเปิดให้บริการเดินรถได้ภายในปี 2563
ผู้บริหาร BEM บอกว่า การเดินรถส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงินจะสามารถเพิ่มจำนวนผู้โดยสารอีกเท่าตัว คือ จาก 3 แสนคนต่อวันในปัจจุบัน เป็น 6 แสนคนต่อวัน ขณะสัญญาการเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน เป็นแบบ “Net cost” เช่นเดียวกับสัญญาเดินรถปัจจุบันในสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางซื่อ ระยะทาง 20 กม. และได้ยืดระยะเวลาสิ้นสุดสัญญาไปเท่ากับส่วนต่อขยาย คือ ในปี 2592 โดยมีเพดานค่าโดยสารอยู่ที่ 42 บาทต่อการเดินทาง 12 สถานีขึ้นไป
ตามผลสำรวจนักวิเคราะห์ในฐานข้อมูล “ธอมป์สัน รอยเตอร์” คาดกำไรสุทธิของ BEM ในงวดปี 2559 จะออกมาที่ 2,667 ล้านบาท หรือค่อนข้างทรงตัวจากปีก่อนที่มีกำไร 2,650 ล้านบาท
โบรกเกอร์ “ฟินันเซีย ไซรัส” ระบุผ่านบทวิเคราะห์ในเดือนนี้ คาดว่าแนวโน้มกำไรปกติของ BEM ในงวด 4Q/59 จะออกมาลดลง 1.2% Q/Q แต่เพิ่มขึ้น 59.7% Y/Y จากดอกเบี้ยจ่ายที่เพิ่มขึ้นจากการออกหุ้นกู้ราว 8,000 ล้านบาท ขณะกำไรปกติทั้งปี 2559 ยังน่าจะเติบโตสดใส 108%
นักวิเคราะห์โบรกเกอร์รายนี้ปรับลดคาดการณ์ปริมาณจราจรทางด่วนศรีรัช และจำนวนผู้โดยสารสายสีม่วง ซึ่งฉุดราคาเป้าหมายลดลงจาก 12 บาท มาเป็น 10.50 บาท (รวมรถไฟฟ้าสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย) แต่ยังมีมุมมองเป็นบวกกับกำไรระยะยาวจากรถไฟฟ้าสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ซึ่งจะช่วยหนุนให้รายได้เพิ่มขึ้นราว 500 ล้านบาทต่อปี
“ฟินันเซียฯ” คาดกำไรสุทธิ BEM ในปี 2560 ยังเติบโตต่อเนื่องอีก 18.2% เป็น 3,325 ล้านบาท จากการรับรู้รายได้ของการเดินรถไฟฟ้าสายสีม่วง และทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอก เข้ามาเต็มปี ขณะปัจจุบัน BEM ได้รับจ้างเดินรถด้วยวิธีพิเศษเชื่อม 1 สถานี ช่วงบางซื่อ-เตาปูน ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าภายหลังเปิดเดินรถในเดือน ส.ค. จะทำให้จำนวนผู้โดยสารเข้ามาใช้สายสีน้ำเงินเดิม เพิ่มขึ้นอีกราว 3 หมื่นคนต่อวัน
หุ้นยังมี “Upside” ที่นักวิเคราะห์ยังไม่รวมในประมาณการ เช่น แผนการเปิดประมูลการเดินรถสายสีส้ม ตะวันตก(บางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรม) และตะวันออก (ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี) รวมถึงการเดินรถสายสีม่วงใต้ (เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น