วันเสาร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

IVL

IVL กำไรปี 59 สูงกว่าตลาดคาด จับตาผลจากควบรวม ขยายโรงงานหนุนกำไร 



ปิดตลาดปลายสัปดาห์ที่แล้ว (ศุกร์ 17 ก.พ.) หุ้นมาร์เก็ตแค็ปใหญ่ถูกสลับกลับมาเป็นเป้าซื้อ นำโดยหุ้นในกลุ่มพลังงาน ไอซีที และธนาคาร พ่วงมาด้วยหุ้นใหญ่ในกลุ่มขนส่งอย่าง AOT วอลุ่มตลาดทั้งวันดูไม่หนาตา ขณะกรอบเคลื่อนไหวของดัชนี SET ค่อนข้างจำกัด แม้จะเปิดกระโดดในช่วงเช้าด้วยเซนติเมนต์ต่างประเทศช่วยหนุน ก่อนที่จะมีแรงขายส่งออกมาช่วงท้ายตลาด แต่ยังสามารถปิดในแดนบวกได้ นักลงทุนต่างชาติเป็นผู้ซื้อสุทธิ 1.8 พันล้านบาท ส่วนนักลงทุนทั่วไปขายสุทธิ 2.3 พันล้าน

ผลประกอบการหุ้นไทย ทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยบจ.ล่าสุด ที่รายงานกำไรสุทธิสูงกว่าตลาดคาด คือ IVL หรือ “อินโดรามา เวนเจอร์ส” 

IVL เปิดเผยกำไรสุทธิงวดปี 2559 อยู่ที่ 16,197 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 6,609 ล้านบาทในงวดปี 2558 หรือเพิ่มขึ้น 145% ตัวเลขกำไรสูงกว่าผลสำรวจนักวิเคราะห์ตามฐานข้อมูล “ธอมป์สัน รอยเตอร์” ที่คาดจะออกมา 15,278 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 131%

สำหรับงวดไตรมาส 4  บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 2,959 ล้านบาท จากที่มีกำไรเพียง 302 ล้านบาทงวดเดียวกันปีก่อนหน้า  และสูงกว่าผลสำรวจนักวิเคราะห์ที่คาดกำไร 2,589  ล้านบาท

กำไรที่ดีขึ้นในงวดปี 2559 บริษัทฯ ระบุว่า เกิดจากผลการดำเนินงานหลักที่ดีขึ้น และรายได้จากรายการพิเศษซึ่งส่วนใหญ่มาจากกำไรจากการต่อรองราคาซื้อจากการเข้าซื้อกิจการ 

Core EBITDA ของบริษัทฯ ในปี 2559 เพิ่มขึ้น 25% จากการเติบโตของแต่ละธุรกิจ โดย Core EBITDA ของธุรกิจ PET เพิ่มขึ้น19%  ธุรกิจเส้นใยและเส้นด้ายโพลีเอสเตอร์เพิ่มขึ้น 8% ในขณะที่ธุรกิจ Feedstock เติบโตขึ้น 42% 

ด้านปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้น 24% หลังเสร็จสิ้นการเข้าซื้อสองกิจการหลักในเดือนเมษายน 2559 ที่มีอัตรากำไรที่เพิ่มขึ้นในตลาดสหรัฐอเมริกาและยุโรป โดยการซื้อกิจการเหล่านี้ มีจุดมุ่งหมายหลักเพื่อการเพิ่มมูลค่าและป้องกันความเสี่ยงใน “ห่วงโซ่มูลค่า” โดยเพิ่มการควบรวมวัตถุดิบในธุรกิจต้นน้ำ และปรับปรุงผลการดำเนินงานโดยรวมของบริษัทฯ 

จากกำไรต่อหุ้นในงวดปี 2559 ที่เพิ่มขึ้น 172% มาเป็น 3.15 บาทต่อหุ้น คณะกรรมการฯ จึงเสนอจ่ายเงินปันผลจำนวน 0.66 บาทต่อหุ้น โดยส่วนหนึ่งคือจำนวน 0.30 บาทต่อหุ้นถูกจ่ายไปแล้วในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2559 ส่วนที่เหลืออีก 0.36 บาทต่อหุ้น นั้น จะจ่ายในครึ่งปีหลัง

ในแง่ของการลงทุน บริษัทฯ ระบุถึงแผนมุ่งสู่ตลาดที่มีการเติบโตสูง การควบรวมเชิงกลยุทธ์ และการเพิ่มสัดส่วนผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่ม โดยมีโครงการลงทุนเพื่อการเติบโตอีกหลายโครงการ รวมถึงโครงการ gas cracker แบบ dual-feed ในรัฐหลุยเซียนา ประเทศสหรัฐฯ ซึ่งอยู่ในระหว่างการปรับปรุงและเป็นไปตามแผนการที่จะแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2560 ซึ่งจะสร้างรายได้เต็มปีให้แก่บริษัทในปี 2561 เป็นปีแรก โดยมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 440 พันตัน 

IVL แจ้งว่ามีการขยายโรงงาน PTA ใน Rotterdam ประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งจะเริ่มดำเนินการกลางปี 2560 ซึ่งจะช่วยหนุนกำลังการผลิต PTA เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า จากปัจจุบันมีกำลังการผลิต 3.5 แสนตัน เป็น 7.0 แสนตัน และช่วยด้านการลดต้นทุน รวมทั้งจะช่วยสนับสนุนการผลิต PET ในทวีปยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา มีการควบรวมธุรกิจอย่างสมบูรณ์ 

ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ประกาศขยายกำลังการผลิตผลิตภัณฑ์ HVA ของโรงงาน Performance Fiber ซึ่งเป็นโรงงานผลิตยางในรถยนต์ในประเทศจีน ซึ่งคาดว่าเริ่มจะดำเนินการได้ในครึ่งแรกของปี 2561 และการขยายกำลังการผลิตเส้นใยและเส้นด้ายโพลีเอสเตอร์ในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในไตรมาสแรก ปี 2562

IVL ยังมีโรงงานผลิต IPA ในประเทศสเปน ที่เตรียมการเพิ่มปริมาณการผลิตสองเท่าเป็น 2.5 แสนตัน ซึ่งคาดว่า ปริมาณการผลิตจะเติบโตในไตรมาสแรก ปี 2561 ตามสัญญาการรับวัตถุดิบ Xylene

โครงการเหล่านี้รวมทั้งโครงการปรับปรุงสายการผลิตที่กำลังดำเนินการอยู่ จะใช้เงินลงทุนประมาณ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 3.5 หมื่นล้านบาท โดยจะแล้วเสร็จในช่วงปี 2560 และ 2561

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น