วันพฤหัสบดีที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

TRC

คาดกำไร TRC งวด 4Q/59 นิวไฮรอบปี ลุ้นเซ็นโครงการเหมืองโปแตซ




ความเคลื่อนไหวตลาดทุนโลก (อังคาร 21 ก.พ.) เม็ดเงินกลับมาพักในเงินดอลลาร์ ฉุดให้ค่าเงินสกุลหลักอื่นๆ เผชิญแรงขาย และสร้างแรงกดดันต่อเนื่องมายังค่าเงินบาทที่เริ่มเห็นสัญญาณอ่อนค่า สอดคล้องกับแรงขายในหุ้น Big cap ที่สลับเข้ามาตลอด ทำให้ทั้งวันเม็ดเงินต่างชาติเป็นยอดขายสุทธิ 659 ล้านบาท ขณะนักลงทุนทั่วไปซื้อสุทธิ 1,300 ล้านบาท

หุ้นขนาดกลางและเล็กยังมีการซื้อขายเจาะจงเป็นรายตัว หลังทยอยประกาศผลประกอบการในงวดปี 2559 ขณะนักลงทุนส่วนหนึ่งหลีกเลี่ยงหุ้นมาร์เก็ตแค็ปใหญ่ตามแนวโน้มฟันด์โฟลว์ที่อาจไหลออกมากขึ้น โดยเฉพาะการเล็งโอกาสสร้างผลตอบแทนในสหรัฐฯ ที่ตลาดรอความชัดเจนของนโยบายภาษีของ “โดนัลด์ ทรัมป์” ในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้า ตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้จึงถูกขับเคลื่อนด้วยเม็ดเงินในประเทศเป็นหลัก รวมทั้งภาวะการเก็งกำไรสลับในกลุ่มหุ้นที่มีข่าวดีสนับสนุนในระยะสั้น

หนึ่งในหุ้นขนาดกลางและเล็กที่ถูกจับตาคือ “ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น” หรือ TRC บริษัทฯ เตรียมประกาศงบปี 2559 ในวันพุธ 22 ก.พ.นี้ ซึ่งมีนักวิเคราะห์ที่เชื่อว่ากำไรจะเติบโตได้ดี ประกอบกับกำลังรอข่าวดีรับงานโครงการก่อสร้างเหมืองแร่โปแตช มูลค่า 3.4 หมื่นล้านบาท ซึ่งปัจจุบัน TRC ถือหุ้น 26.22% ใน บมจ.อาเซียนโปแตซชัยภูมิ (APOT) ที่ได้รับสัมปทานการทำเหมืองเป็นเวลา 25 ปี 

ในช่วงก่อนหน้านี้ TRC เคยถูกกดดันจากความล่าช้าของกระทรวงการคลังที่ถือหุ้นสัดส่วน 20% ซึ่งจะต้องเข้ามาใส่เงินเพิ่มทุน หลังจากผู้ถือหุ้นรายอื่นมีความพร้อมใส่เงินเพิ่มทุนอยู่แล้ว ก่อนมาในสัปดาห์นี้ ที่มีรายงานว่าคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบเพิ่มทุนใน APOT แล้ว ในวงเงิน 80 ล้านบาท จนสร้างแรงสนับสนุนต่อราคาหุ้นให้ดีดกลับขึ้นมาทำนิวไฮรอบ 7  เดือน แม้จะมีแรงขายสลับออกมา แต่ก็เป็นวอลุ่มที่ไม่หนาแน่นนัก

นอกเหนือจาก TRC จะเป็นผู้ถือหุ้นใน APOT แล้ว ยังจะเป็นบริษัทที่ได้รับงานรับเหมาก่อสร้างในโครงการดังกล่าวด้วย ซึ่งมีนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าอาจจะเห็นการลงนามเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการภายในไตรมาสแรกนี้ จากที่เคยคาดหมายว่าจะลงนามกันในไตรมาส 4/59 

อย่างไรก็ตาม ยังน่าติดตามกันต่อว่าการเข้ารับงานก่อสร้างที่มีมูลค่าสูงถึง 3.4 หมื่นล้านบาทของ TRC จะนำเงินทุนมาในรูปแบบใด? หรือมีพันธมิตรเข้ามาร่วมรับงานหรือไม่?  

โครงการเหมืองแร่โปแตซอาเซียน เป็นโครงการที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือของประเทศอาเซียน เพื่อดำเนินการทำเหมืองและโรงแต่งแร่โปแตซที่จ.ชัยภูมิ เพื่อผลิตปุ๋ยให้เกษตรกรได้ใช้ปุ๋ยที่มีคุณภาพในราคาถูก

โบรกเกอร์ “เมย์แบงก์ กิมเอ็ง” ประเมิน TRC จะมีผลประกอบการไตรมาส 4/59 โดดเด่นและสูงสุดของปี โดยเบื้องต้นประเมินกำไรเท่ากับ 90 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 28% ผลประกอบการได้แรงหนุนจากการรับรู้รายได้ของโครงการต่างๆ และมีการส่งมอบหลายโครงการ ทำให้ยอดรับรู้รายได้จากงานก่อสร้างจะเพิ่มเป็น 1,392 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% Q/Q ส่งผลให้ทั้งปี บริษัทฯ จะมีรายได้ 4,100 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% และกำไรสุทธิ อยู่ที่ 247 ล้านบาท ลดลง 19%

สำหรับแนวโน้มในปี 2560 นักวิเคราะห์โบรกเกอร์รายนี้คาดผลประกอบการจะก้าวกระโดด คาดรายได้จะพุ่งขึ้นเป็น 8,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 119% และ คาดว่ากำไรจะทำสถิติสูงสุดใหม่ ที่  446 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 104% 

“เมย์แบงก์ฯ ” คงราคาพื้นฐาน TRC ที่ 1.80 บาท นักวิเคราะห์คาดหวังผลประกอบการจะฟื้นตัวโดดเด่นมากในปี 2561

ส่วนโบรกเกอร์ "เอเชียเวลท์" คาดการณ์กำไรสุทธิในไตรมาส4/59 ของ TRC จะอยู่ที่ 84 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากงานส่วนใหญ่เป็นงานที่แล้วเสร็จและพร้อมส่งมอบ ประกอบกับอัตราภาษีปรับลดลงมา 20% 

ในประเด็นเหมืองโปแตซฯ นักวิเคราะห์คาดหวังจะเห็นการเซ็นสัญญารับงานในไตรมาสแรก ซึ่งจะช่วยให้มี Backlog เข้ามาเพิ่มถึง 3.34 หมื่นล้านบาท โดยเมื่อเทียบกับสัดส่วนของ Backlog โดยรวมจะมากถึง 88% อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 13% แม้ว่างานดังกล่าว มาร์จิ้นจะน้อยกว่างานรับเหมาก่อสร้างธุรกิจปิโตรเคมีที่ 17% แต่ด้วยมูลค่างานที่สูง จึงเชื่อว่าจะสามารถรองรับการเติบโตของ TRC ได้ในระยะยาว 

“เอเชียเวลท์” ระบุด้วยว่า TRC ยังมีโอกาสเข้ารับงานก่อสร้างท่อก๊าซของ PTT ที่จะเปิดประมูลผู้รับเหมาฯ ในไตรมาสแรกมูลค่ากว่า 1.3 หมื่นล้านบาท

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น